"ปี 2567 เป็นปีที่บางจากฯ ครบรอบ 40 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 จากจุดเริ่มต้นธุรกิจด้วยโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็ก จนเติบโตเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่นอกจากจะได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำในธุรกิจการกลั่นน้ำมันและการตลาดแล้ว ยังโดดเด่นในด้าน ESG ระดับโลก ได้รับการจัดอันดับ Top 1% สูงสุดของโลก ด้าน ESG ในอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing จาก S&P Global 2024 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมพลังงานในระดับสากล"

นอกจากนี้ เรายังได้รับการยกย่องจาก Financial Times ให้เป็นหนึ่งใน Asia-Pacific Climate Leaders 2024 ตอกย้ำบทบาทของบางจากฯ ในการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและนโยบายด้าน ESG ในระดับนานาชาติ เรามุ่งมั่นดำเนินกลยุทธ์ BCP316NET ซึ่งกำหนดเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2030 และ Net Zero ภายในปี 2050 พร้อมขยายกลยุทธ์ไปยังซัพพลายเชนเครือข่ายทั่วโลกครอบคลุมเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนของกลุ่มบริษัทบางจาก

บางจากเดินหน้าพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกที่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่าอากาศยาน โดยผลิตผลิตภัณฑ์ยั่งยืน (SAF) แห่งแรกของประเทศไทย และร่วมกับพันธมิตรสร้างโรงงานผลิต SAF และเชื้อเพลิงชีวภาพแห่งใหม่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศในปี 2568 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการบิน

นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนาเชื้อเพลิงคุณภาพสูง Bangchak Hi Premium 97 และ Hi Premium Diesel S ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค

ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา บางจากฯ เป็นผู้ริเริ่ม Carbon Markets Club (CMC) ซึ่งเป็นการรวมตัวครั้งแรกของประเทศไทยที่เชื่อมโยงตลาดและกลไกธุรกิจในการส่งเสริมการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยความสมัครใจ พร้อมทั้งสื่อสารราคาคาร์บอนที่เหมาะสมให้ภาคธุรกิจทุกภาคสาขา โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1,300 ราย นอกจากนี้ CMC ยังมีบทบาทขับเคลื่อนในเวทีภูมิภาคอาเซียน โดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมลงนามในกรอบ ASEAN Common Carbon Framework กับ 4 ประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุม COP29 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อผลักดันให้ตลาดคาร์บอนของภูมิภาคได้รับการยอมรับในระดับโลก

บางจากฯ ตระหนักดีว่าความสำเร็จขององค์กรเกิดจากพนักงานที่แข็งแกร่ง เราให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พนักงานทุกคนสามารถเติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งส่งผลให้นอกจากได้รับรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567” (Kincentric Best Employer Thailand 2024) ซึ่งเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มธุรกิจพลังงานที่ได้รับรางวัลนี้ และในช่วงต้นปี 2568 ยังเป็นบริษัทอันดับ 6 ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุดในประเทศ จากผลสำรวจนักศึกษากลุ่มตัวอย่างกว่า 100,000 คน โดย WorkVenture Technologies ขึ้นจากลำดับ 10 ในปี 2567

ในด้านการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม บางจากฯ ดำเนินการพัฒนาเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชน ผ่านการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นให้สังคมสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว ด้วยการสนับสนุนพลังงานสะอาด การศึกษา และวิสาหกิจชุมชนในรูปแบบ Social Enterprise โดยเฉพาะในปี 2567 Bangchak Group แพลตฟอร์มอุดมศึกษาเพื่อพลังงานแห่งอนาคต ร่วมมือกับ 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำ เปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศเข้าถึงทักษะดิจิทัลด้าน STEM Education นอกจากนี้ เนื่องจากโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี 2567 บริษัทฯ ยังได้จัดทำโครงการ “เติมสุข สู่สังคม” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านโครงการเพื่อสังคม และโครงการส่งเสริมพื้นที่สีเขียวและนวัตกรรม ในรูปแบบต่างๆ

ในปี 2567 บางจากฯ ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 ของการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “สร้างโลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว” เรามุ่งมั่นเดินหน้าในการยกระดับ ESG ในระดับสากล และขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืนในระดับประเทศและระดับโลก บางจากฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานสีเขียวของภูมิภาค และเป็นต้นแบบของธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล พร้อมทั้งในปีแห่งการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้ เราจะเดินหน้าอย่างเข้มแข็ง สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนต่ออนาคตพลังงานของโลก